เคล็ดลับในการจัดการความเครียด ทุกวันนี้เป็นเรื่องยากที่จะไม่รู้สึกเหนื่อยล้าบ้างเป็นครั้งคราว ระหว่างที่ต้องจัดการงาน ครอบครัว และภาระหน้าที่อื่นๆ คุณอาจเครียดและยุ่งจนเกินไป แต่คุณจำเป็นต้องจัดสรรเวลาเพื่อผ่อนคลาย มิฉะนั้น สุขภาพจิตและร่างกายของคุณอาจได้รับผลกระทบ การเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดต้องอาศัยการฝึกฝน แต่คุณสามารถทำได้ และจำเป็นต้องทำ ต่อไปนี้คือ 10 วิธีที่จะช่วยให้การจัดการความเครียดเป็นเรื่องง่ายขึ้น
10 เคล็ดลับในการจัดการความเครียด
1. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นประจำถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยปรับปรุงอารมณ์ของคุณ แต่คุณต้องออกกำลังกายบ่อยๆ จึงจะได้ผล
แล้วคุณควรออกกำลังกายสัปดาห์ละเท่าไร?
ออกกำลังกายแบบปานกลาง เช่น การเดินเร็วๆ นานสูงสุด 2 ชั่วโมง 30 นาที หรือออกกำลังกายแบบหนักกว่า เช่น ว่ายน้ำ จ็อกกิ้ง หรือเล่นกีฬาอื่นๆ นาน 75 นาที เน้นที่การตั้งเป้าหมายการออกกำลังกายที่คุณสามารถบรรลุได้ เพื่อไม่ให้คุณยอมแพ้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ อย่าลืมว่าการออกกำลังกายทุกครั้งยังดีกว่าไม่ออกกำลังกายเลย
2. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อของคุณ
เมื่อคุณเครียด กล้ามเนื้อของคุณจะตึงเครียด คุณสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อและทำให้ร่างกายสดชื่นได้ด้วยตัวเองโดย
3. การหายใจเข้าลึกๆ
การหยุดพักและหายใจเข้าลึกๆ สักสองสามครั้งสามารถช่วยลดความกดดันลงได้ทันที คุณจะประหลาดใจว่ารู้สึกดีขึ้นมากเพียงใดเมื่อคุณทำได้ดีขึ้น เพียงปฏิบัติตาม 5 ขั้นตอนเหล่านี้
- นั่งในท่าที่สบายโดยวางมือบนตักและวางเท้าบนพื้น หรือจะนอนลงก็ได้
- หลับตา
- ลองนึกภาพว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ผ่อนคลาย อาจจะเป็นบนชายหาด ทุ่งหญ้าที่สวยงาม หรือที่ไหนก็ได้ที่ทำให้คุณรู้สึกสงบ
- หายใจเข้าและออกลึกๆ ช้าๆ
- ทำเช่นนี้ครั้งละ 5 ถึง 10 นาที
4. รับประทานอาหารที่ดี
การรับประทานอาหารที่สมดุลและสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นโดยรวม นอกจากนี้ยังอาจช่วยควบคุมอารมณ์ ได้ด้วย มื้ออาหารของคุณควรมีผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสีและโปรตีน ไขมันต่ำ เพื่อให้มีพลังงาน และอย่าละเลยสิ่งเหล่านี้ เพราะไม่ดีต่อสุขภาพและอาจทำให้คุณอารมณ์เสีย ซึ่งอาจทำให้คุณเครียดมากขึ้นได้
5. ช้าลง
ชีวิตในยุคใหม่นั้นยุ่งวุ่นวายมาก และบางครั้งเราแค่ต้องการผ่อนคลายและใช้ชีวิตช้าลง ลองมองชีวิตของตัวเองและหาวิธีเล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำได้ เช่น
- ตั้งนาฬิกาล่วงหน้า 5 ถึง 10 นาที วิธีนี้จะช่วยให้คุณไปถึงที่หมายเร็วขึ้นเล็กน้อยและหลีกเลี่ยงความเครียดจากการไปสาย
- เมื่อคุณขับรถบนทางหลวง ให้เปลี่ยนไปใช้เลนช้าเพื่อหลีกเลี่ยงอาการโมโหบนท้องถนน
- แบ่งงานใหญ่ๆ ออกเป็นงานย่อยๆ เช่น อย่าพยายามตอบอีเมลทั้งหมด 100 ฉบับหากไม่จำเป็น แต่ให้ตอบแค่บางส่วนก็พอ
6. พักสักครู่
คุณต้องวางแผนเวลาพักผ่อนอย่างแท้จริงเพื่อให้จิตใจได้พักผ่อนจากความเครียด หากคุณเป็นคนที่ชอบตั้งเป้าหมาย ในตอนแรกอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ แต่ให้พยายามต่อไป แล้วคุณจะตั้งตารอช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ กิจกรรมผ่อนคลายที่คุณสามารถทำได้ ได้แก่
- การทำสมาธิ
- โยคะ
- ไทเก็ก
- การอธิษฐาน
- การฟังเพลง ที่คุณชื่นชอบ
- การใช้เวลาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
7. จัดเวลาให้กับงานอดิเรก
คุณควรจัดสรรเวลาให้กับสิ่งที่คุณชอบ พยายามทำสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดีทุกวัน ซึ่งจะช่วยคลายความเครียดได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานมาก แค่ 15-20 นาทีก็พอ งานอดิเรกที่ช่วยผ่อนคลาย ได้แก่
- การอ่าน
- การถักนิตติ้ง
- การทำโครงการศิลปะ
- การเล่นกอล์ฟ
- กำลังดูหนัง
- ทำปริศนา
- การเล่นไพ่และเกมกระดาน
8. พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาของคุณ
หากมีเรื่องรบกวนใจคุณ การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นอาจช่วยลดความเครียดได้ คุณสามารถพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัว เพื่อน นักบวชที่ไว้ใจได้ แพทย์ หรือนักบำบัด นอกจากนี้ คุณยังสามารถพูดกับตัวเองได้อีกด้วย เรียกว่าการพูดกับตัวเอง และเราทุกคนก็ทำเช่นนั้น แต่เพื่อให้การพูดกับตัวเองช่วยลดความเครียดได้ คุณต้องแน่ใจว่าการพูดนั้นเป็นเรื่องบวกไม่ใช่ลบ ดังนั้นจงตั้งใจฟังสิ่งที่คุณคิดหรือพูดเมื่อคุณเครียด หากคุณกำลังส่งข้อความเชิงลบถึงตัวเอง ให้เปลี่ยนให้เป็นเชิงบวก ตัวอย่างเช่น อย่าบอกตัวเองว่า “ฉันทำไม่ได้” แต่ให้บอกตัวเองแทนว่า “ฉันทำได้” หรือ “ฉันทำดีที่สุดแล้ว”
9. ผ่อนคลายกับตัวเอง
ยอมรับว่าคุณไม่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใด คุณก็ไม่สามารถควบคุมทุกอย่างในชีวิตได้เช่นกัน ดังนั้น จงช่วยตัวเองและหยุดคิดว่าคุณทำได้มากมาย และอย่าลืมรักษาอารมณ์ขันของคุณเอาไว้ การหัวเราะจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
10. กำจัดปัจจัยกระตุ้นของคุณ
ลองคิดดูว่าอะไรคือสาเหตุหลักของความเครียดในชีวิตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นงานของคุณ การเดินทางไปทำงาน หรือการเรียน หากคุณสามารถระบุได้ว่าสาเหตุเหล่านี้คืออะไร ลองหาวิธีกำจัดสาเหตุเหล่านี้ออกไปจากชีวิตของคุณ หรืออย่างน้อยก็ลดสาเหตุลง
หากคุณไม่สามารถระบุสาเหตุหลักของความเครียดได้ ให้ลองจดบันทึกความเครียด จดบันทึกว่าคุณรู้สึกวิตกกังวลมากที่สุดเมื่อใด และดูว่าคุณสามารถระบุรูปแบบได้หรือไม่ จากนั้นหาวิธีขจัดหรือลดปัจจัยกระตุ้นเหล่านั้น
โดย แทงบอลยูโร